ในยุคแห่งการค้าเสรีผู้นำกิจการจำเป็นยิ่งต้องปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก โดยเฉพาะบริบทของไทยและอาเซียนที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นพลวัต ในขณะที่ยุทธศาสตร์การพัฒนาของเวียดนามเป็นไปในเชิงรุก ในขณะที่มาเลเซียกำลังก้าวข้ามความเป็นประเทศกำลังพัฒนา ในขณะที่พม่า ลาว และกัมพูชากำลังพัฒนาประเทศให้หลุดพ้นจากความยากจน และในขณะที่ประเทศไทยกำลังตกอยู่ในกับดักแห่งความอิหลักอิเหลื่อ ทั้งในทางเศรษฐกิจ การเมือง และสังคม ผู้นำกิจการต้องปรับปรุงกิจการของตนเองสู่ความเป็นอาเซียนท่ามกลางสถานการณ์ที่เปราะบางและแหลมคมยิ่ง
ยุคปัจจุบันเป็นยุคของลูกค้า หาใช่ยุคของพ่อค้าอีกต่อไป มิพักต้องสงสัยว่ากลยุทธ์ของกิจการต้องเปลี่ยนไปเป็นมั่นคง Dr. Shirley Strech แห่ง California State University, Los Angeles กล่าวว่า กลยุทธ์กิจการต้องเปลี่ยนจาก Push strategy ที่ทำการตลาดผ่านตัวกลาง เป็น Pull strategy ทำการตลาดไปยังลูกค้าโดยตรง ดังนั้นผู้นำกิจการเมื่อต้องจัดแสดงสินค้าตามบูธต่างๆ จึงต้องปรับภาพลักษณ์ของสินค้าให้เหมาะกับลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นตลาดบนหรือตลาดล่าง มิใยต้องกล่าวถึงการเลือกงานแสดงสินค้าที่ถูกต้อง ตรงกับภาพลักษณ์ของสินค้าอีกด้วย
นอกจากนั้นการออกแบบผลิตภัณฑ์ยังเป็นสิ่งจำเป็นอีกด้วย เช่น สินค้าเครื่องสำอางค์การออกแบบต้องมีลักษณะเรียบ ดูสะอาดตา จึงจะเหมาะกับตลาดบนและลูกค้ากลุ่มยุโรป อเมริกา หากออกแบบด้วยสีฉูดฉาดจะเหมาะกับตลาดล่างหรือลูกค้าชาวจีน ดังนั้นเพื่อให้การออกแบบสินค้าตรงกับกลุ่มเป้าหมาย ผู้นำกิจการจึงจำเป็นอย่างยิ่ง ที่จะต้องศึกษาผลิตภัณฑ์ของคู่แข่งหรือสินค้าที่ใกล้เคียงกัน เพื่อออกแบบผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับสินค้าของตนเอง
แม้การออกแบบหรือกลยุทธ์จะปรับเปลี่ยนเพื่อเน้นลูกค้าเป็นศูนย์กลาง แต่ในความคิดเห็นของผู้เขียนยังไม่เพียงพอต่อโลกาภิวัตน์ โดยเฉพาะ AEC ผู้นำกิจการจำเป็นต้องศึกษามารยาทและวัฒนธรรมของประเทศเพื่อนในอาเซียนอีกด้วย ไม่เพียงแต่เป็นการเจาะตลาดลูกค้าแต่ยังต่อยอดธุรกิจในการหาคู่ค้าต่อในอนาคตอีกด้วย
โดยวิญญู วีระนันทาเวทย์ thilang8330@hotmail.com