browser icon
You are using an insecure version of your web browser. Please update your browser!
Using an outdated browser makes your computer unsafe. For a safer, faster, more enjoyable user experience, please update your browser today or try a newer browser.

แนวปฏิบัติที่ดี การขอทุนเพื่อทำวิจัยในระดับนานาชาติ

Posted by on 31 กรกฎาคม, 2015

เนื้อหาจากการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เรื่อง ประสบการณ์และแนวทางการขอทุนเพื่อทำวิจัยในระดับนานาชาติ

ถอดองค์ความรู้ที่ได้จากหัวข้อ “ประสบการณ์และแนวทางการขอทุนเพื่อทำวิจัยในระดับนานาชาติ” โดยกิจกรรมการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ห้อง 205 คณะบริหารศาสตร์ วันที่ 22 กรกฎาคม 2558 โดยมีการแลกเปลี่ยนประสบการณ์จากอาจารย์ที่เคยได้รับทุนเพื่อไปทำวิจัย และศึกษาในระดับนานาชาติ ได้แก่  ดร.เพ็ญภัตร พื้นผา, ดร.นรา หัตถสิน, ดร.กฤตยา อุธโท, ดร.ธรรมวิมล สุขเสริม และผู้เข้าร่วมกิจกรรมรวม 25 คน โดยมี คุณบงกช คูณผล เป็นคุณลิขิต

 

แนวปฏิบัติที่ดี การขอทุนเพื่อทำวิจัยในระดับนานาชาติ

 

  1. ทำการสืบค้นแหล่งที่สนับสนุนทุน
    ตัวอย่างเช่น http://www.britishcouncil.or.th/ , ทุนของรัฐบาลอังกฤษ,  ทุน Erasmus Mandus,  http://www.educationuk.org/,  ทุนของFord Foundation International Fellowships Program (IFP) , ทุนของ NFP (Netherlands Fellowship Programmes)
  2. ทำการศึกษาความต้องการของแหล่งทุน / วัตถุประสงค์ของการให้ทุน
    เทคนิค : ต้องตอบโจทย์ของผู้ให้ทุนวิจัยให้ชัดเจน
  3. ทำการเขียนข้อเสนอโครงการ (Research Proposal) และนำเสนอแหล่งทุน
    เทคนิค : เขียนเป็นภาษาไทยก่อน จากนั้นให้ผู้เชี่ยวชาญด้านภาษาอังกฤษแปลให้
  4. ในการเขียนหัวข้อวิจัยใช้การแนวปฏิบัติดังนี้ (ปรับปรุงจากจรรยาวิชาชีพวิจัย ของสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ)

4.1 ไตร่ตรองหาหัวข้อวิจัยด้วยความรอบคอบ เพื่อให้เกิดประโยชน์ในการเสริมสร้างองค์ความรู้ ความก้าวหน้าทางวิชาการ การแก้ปัญหา และประโยชน์สุขของสังคมและประเทศชาติ

4.2 มีความเป็นกลางทางวิชาการ และไม่ดำเนินการวิจัยโดยมีวัตถุประสงค์ในการโจมตี หรือทำให้ผู้อื่นได้รับความเสียหาย

4.3 ศึกษาระเบียบ กฎเกณฑ์ เงื่อนไข และรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับการวิจัยของหน่วยงานต้นสังกัด และที่เกี่ยวกับการให้ทุนวิจัยของแหล่งทุนอย่างละเอียดรอบคอบ ก่อนนำเสนอโครงการวิจัยเพื่อขอรับทุนสนับสนุน เพื่อป้องกันความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

4.4 เขียนโครงการวิจัยในสาขาที่ตนถนัด มีความรู้ ความสามารถ ประสบการณ์ และศักยภาพเพียงพอที่จะทำวิจัยให้สำเร็จตามวัตถุประสงค์ และได้มาตรฐานทั้งทางวิชาการและการวิจัย

4.5 ทบทวนวรรณกรรมที่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่จะทำวิจัยอย่างพอเพียง ก่อนลงมือเขียนข้อเสนอโครงการวิจัย

4.6 ให้เกียรติและอ้างถึงนักวิชาการเจ้าของข้อมูล หรือแหล่งที่มาของข้อมูล แนวคิด ผลงาน และถ้อยคำที่นำมาใช้ในการเขียนโครงการวิจัย ต้องไม่แอบอ้าง หรือสร้างข้อมูลเท็จ หรือปลอมแปลงข้อมูล หรือนำผลงานของผู้อื่นมาเป็นของตน หรือกระทำการใดๆ ที่ทำให้แหล่งทุนเกิดความเข้าใจผิดไปจากความเป็นจริง

4.7 ออกแบบและวางแผนการวิจัยหรือทดลองอย่างถูกต้องตามหลักวิชาการ และระเบียบวิธีการวิจัยที่เป็นที่ยอมรับของศาสตร์ที่เกี่ยวเนื่องกับเรื่องที่วิจัย

4.8 ปฏิบัติให้เป็นไปตามมาตรฐานจริยธรรมการวิจัยในคน โดยต้องเสนอข้อเสนอโครงการวิจัยที่เกี่ยวข้องกับคน ให้คณะกรรมการจริยธรรมการวิจัยในคน (หรือในชื่อเรียกอย่างอื่น) เพื่อรับรองหรือให้ความเห็นชอบก่อนยื่นเสนอต่อแหล่งทุนวิจัย

4.9 ขอรับคำยินยอมจากผู้รับการวิจัย หรือผู้แทนโดยชอบธรรมที่สามารถปกป้องผลประโยชน์ของผู้รับการวิจัยได้ เช่น บิดามารดา ผู้ปกครอง ญาติ หน่วยงานที่ดูแล เป็นต้น ก่อนเริ่มดำเนินงานวิจัย ทั้งนี้นักวิจัยต้องเปิดโอกาสให้ผู้รับการวิจัยมีอิสระในการตัดสินใจเข้ารับการวิจัย หรือถอนตัวจากการวิจัยได้ตามต้องการ

4.10  ตระหนักถึงผลการวิจัยที่แม่นยำ โดยใช้สัตว์ทดลองจำนวนน้อยที่สุด ทั้งนี้ต้องเสนอข้อเสนอโครงการวิจัยที่เกี่ยวข้องกับสัตว์ ต่อคณะกรรมการจริยธรรมการวิจัยในสัตว์ (หรือในชื่อเรียกอย่างอื่น) เพื่อรับรองหรือให้ความเห็นชอบ ก่อนยื่นเสนอต่อแหล่งทุนวิจัย

4.11 ขออนุญาตเจ้าของสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาที่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่วิจัย ให้ได้รับคำยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรก่อนใช้ทรัพย์สินทางปัญญานั้นเพื่อประโยชน์ในการศึกษาค้นคว้าหรือทดลอง

4.12  ระบุสถานที่ที่จะดำเนินการวิจัยอย่างชัดเจนโดยเฉพาะงานวิจัยที่ต้องใช้คนหรือสัตว์เป็นกลุ่มตัวอย่างในการวิจัย

4.13 ระบุช่วงเวลาในการทำวิจัยในแต่ละขั้นตอนของกระบวนการวิจัย และระยะเวลาทั้งหมดที่จะใช้ในการทำวิจัยอย่างชัดเจน

4.14 มีความโปร่งใสในการเสนอโครงการ เพื่อขอรับทุนวิจัยไม่ปิดบังหรืออำพรางวัตถุประสงค์ที่แท้จริงของการวิจัย และต้องเสนอข้อมูลและแนวคิดอย่างเปิดเผยตรงไปตรงมาในข้อเสนอโครงการวิจัย

4.15 ศึกษาและทำความเข้าใจข้อตกลงหรือสัญญาโครงการวิจัยอย่างรอบคอบและถี่ถ้วน ว่าไม่ขัดกับมาตรฐานทางวิชาการและจรรยาวิชาชีพวิจัย รวมทั้งอยู่ในวิสัยและความสามารถที่นักวิจัยจะกระทำให้สำเร็จได้โดยมีอิสระทางความคิด ก่อนที่จะมีการลงนามในข้อตกลงหรือสัญญากับแหล่งทุนวิจัย

4.16 แจ้งให้หน่วยงานต้นสังกัดทราบก่อนที่จะลงนามในข้อตกลงหรือสัญญา ให้เป็นที่เข้าใจตรงกันระหว่างนักวิจัยหน่วยงานต้นสังกัด และผู้ให้ทุนเกี่ยวกับเงื่อนไขและข้อปฏิบัติต่างๆ ในข้อตกลง หรือสัญญา เพื่อให้แต่ละฝ่ายยึดถือปฏิบัติตาม และปกป้องสิทธิประโยชน์ของตน รวมทั้งดำเนินการให้เป็นไปตามระเบียบของหน่วยงานว่าด้วยการวิจัย

 

11032628_10205088644236163_5979573573160691041_o 11222845_10205088651236338_4835051422863785482_o 12006456_10205088638276014_8684418068566622129_o 12027273_10205088637836003_4910876201528146614_o 12028645_10205088652476369_6659667302089435855_o 12028759_10205088653996407_1625299788229581910_o 12028882_10205088640676074_1873349702706655687_o 12038910_10205088646996232_9061917692348976708_o 12038919_10205088638796027_2093266212242353742_o 12052575_10205088644156161_3236162414023551166_o 12068822_10205088649796302_8865725243286254093_o 12068947_10205088643596147_6551214562058070646_o 12080036_10205088640276064_868448828868340267_o 12080037_10205088643556146_3885528391049059125_o 12087184_10205088635635948_5017347189118113709_o 12094856_10205088641996107_451334967041130291_o

ใส่ความเห็น