เกร็ดความรู้จากการดูงานเกาหลีใต้
จากการไปศึกษาดูงานที่ประเทศเกาหลีใต้ช่วง 31 ต.ค. ถึง 4 พ.ย.2555 ได้สัมผัสอากาศที่หนาวเย็นมากพอสมควรคือ อุณหภูมิ 2- 10 องศาเซลเซียส เป็นช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ต้นไม้จึงมีสีสันสดใส ทั้งสีเหลือง แดง และแสด และได้เห็นสภาพบ้านเมืองที่เป็นพื้นที่ภูเขากว่าร้อยละ 70 ของพื้นที่ทั้งหมด สนามบินที่ดีที่สุดในโลก ที่มีความทันสมัยโอ่อ่าและและมีระบบการจัดการในขั้นตอนการต่างๆที่ดีมาก
เกาหลีใต้มีระบบการศึกษาที่เหมือนกับบ้านเรา คือ ประถม 6 ปี มัธยมต้นอ3 ปี มัธยมปลาย 3 ปี และ อุดมศึกษา 4 ปี เกาหลีใต้มีมหาวิทยาลัยจำนวนมาก แต่ที่เป็นที่ต้องการหรือใฝ่ฝันของนักเรียน 3 อันดับแรก คือ มหาวิทยาลัยแห่งชาติเกาหลี (Soul National University), Korea University และPohang University of Science and Technology คนเกาหลีใต้ให้ความสัญกับการสอบเอนทรานวซ์เข้ามหาวิทยาลัยมาก เนื่องจากเชื่อว่าเป็นสิ่งที่กำหนดวิชีวิตการทำงานและการแต่งงานในอนาคต ในปีหนึ่งๆมีนักเรียนนับแสนที่ต้องสอบแข่งขันกัน และทุกปีจะมีคนสมหวังเพียงครึ่งเดียว ส่วน Far East University ที่มี MOU กับคณะบริหารศาสตร์ เป็นมหาวิทยาลัยเอกชนมีอายุประมาณ 14 ปี ตั้งอยู่บนเนินเขา ทำให้มองไปรอบจะเห็นทิวทัศน์จากมุมสูงได้อย่างกว้างขวางมาก และสวยงามทีเดียว แต่ช่วงนี้ดูแห้งแล้งไปหน่อย การเดินทางไปแต่ละตึกเรียนรวมทั้งหอพักของเขาจึงต้องขึ้นลงเนิน โดยจะมีสนามฟุตบอลหญ้าเทียมสำหรับนักศึกษาอยู่ตรงกลางมหาวิทยาลัย และมีการจัดสวนที่สวยงามที่มีบ่อน้ำอยู่ตรงกลาง มหาวิทยาลัยแห่งนี้มีหลักสูตรจำนวนมาก ทั้งด้านวิทยาศาสตร์ ศิลปศาสตร์ ภาษาศาสตร์ และเทคโนโลยี และสาขาหนึ่งที่สร้างความภาคภูมิใจให้กับมหาวิทยาลัย คือสาขาเกี่ยวกับงานบริการและจัดการบนเครื่องบิน ซึ่งมีห้องฝึกปฏิบัติสำหรับนักศึกษาที่น่าสนใจคือจำลองเอาเครื่องบิน ซึ่งส่วนหัวของเครื่องบินจำลองนี้เป็นส่วนประกอบของเครื่องบินจริง ภายในที่ที่นั่งผู้โดยสาร และส่วนเก็บสัมภาระและอาหารสำหรับผู้โดยสาร และปูพื้นด้วยพรมอย่างดี ปีที่แล้วมีนักศึกษาที่จบการศึกษาสาขานี้กว่า 30 คน ที่ได้ทำงานในสายการบินชั้นนำต่างๆ
นอกจากนี้ Far East University มีโครงการแลกเปลี่ยนกับมหาวิทยาลัยในต่างต่างประเทศจำนวนมาก ทั้งในแถบเอชีย เช่น ไทย และฟิลิปปินส์ ตลอดจนประเทศสหรัฐอเมริกา และประเทศอื่นๆอีกมากมาย อาชีพที่รัฐบาลเกาหลีใต้ส่งเสริมมากคือ อาชีพด้านเทคโนโลยีโดยเฉพาะที่เกี่ยวกับระบบ Digital ยาและการแพทย์ด้านสุขภาพและด้านความงาม ซึ่งเกาหลีใต้ถือว่าเป็นประเทศชั้นนำในด้านนี้ แต่อาชีพที่เกาหลีใต้ไม่นิยมทำคือ อาชีพเกี่ยวกับการบริการ และงานใช้แรงงาน อย่างเช่น อาหารมื้อเช้าในโรงแรมจะไม่มีพนักงานบริการเก็บจานหลังจากที่เราทานอาหารเสร็จ ดังนั้นเราต้องเก็บจานเอง พืชปลูกที่เห็นระหว่าง 2 ข้างทาง คือ ข้าว (ระยะนี้เก็บเกี่ยวหมดแล้ว) สาลี่ แอปเปิ้ล(ช่วงนี้เห็นแต่ต้นไม่มีผล) และผักการขาว(ชนิดที่ใช้ทำกิมจิ) รายได้เฉลี่ยต่อหัวต่อปีของเกาหลีสูงมาก แต่ค่าครองชีพของเกาหลีก็สูงมากเช่นเดียวกัน ที่อยู่อาศัยส่วนใหญ่โดยเฉพาะในเมืองอยู่บนคอนโดมิเนียมซึ่งมีราคาแพงมากเช่นเดียวกัน รถยนต์ส่วนใหญ่ที่ประชาชนเป็นยี่ห้อฮุนไดหรือไม่ก็แดวู และหลายรุ่นซึ่งมีหน้าตาคล้ายรถยุโรป เช่น เมอซิเดส-เบนซ์ หรือคล้ายรถยี่ปุ่นเช่น Nissan Teana หรือ Toyota Camry บ้าง เป็นต้น อย่างไรก็ตามชาวเกาหลีใต้นิยมใช้รถสาธารณะเช่น รถไฟใต้เดิน ที่มีทางรรอดใต้แม่น้ำเสียด้วย การจราจรไม่ติดขัดมากนัก บ้านเมืองถือว่าสะอาดมากทีเดียว
สถาปัตยกรรมของเกาหลี เช่น วัด พระราชวัง และเทวรูปต่างๆคล้ายกับของประเทศจีนมาก เพียงแต่แตกต่างกันในรายละเอียดของลวดลายเท่านั้น แต่ถ้าเทียบความยิ่งใหญ่คงต้องยกให้พระราชวังต้องห้ามของประเทศจีน ส่วนอาหารปิ้งย่างจะเสิร์ฟเป็นเนื้อชิ้นใหญ่เต็มกระทะ กับเครื่องเคียงประเภทผักสดและผักดองเช่นกิจิ หัวผักกาดองหั่นลูหเต๋า ส่วนอาหารประเภทเส้น เช่น ก๋วยเตี๋ยว รสชาติจืดดีมีไก่ทั้งตัวในพุงไก่มีข้าวเต็มท้อง ต้องอาศัยน้ำจิ้มและพริกที่ไกด์นำเที่ยวไทยเตรียมไว้ให้ นอกจากนี้เกาหลีใต้มักมีการประท้วงอยู่เสมอ แต่ก็น่าชื่นชมที่ทำอย่างกันมีระเบียบ ตามสถานที่ที่จัดไว้ให้และผู้ประท้วงต้องแจ้งสถานีตำรวจก่อนจะมีการประท้วง เพื่อตำรวจจะได้จัดกำลังไว้ดูแลความปลอดภัยต่างๆ รวมทั้งจัดห้องน้ำเคลื่อนที่ไว้ให้ด้วย ช่วงที่ไปดูงานก็เห็นอย่างน้อย 2 กลุ่มประท้วง คือกลุ่มผู้สูงอายุ และอีกกลุ่มจัดคล้ายคอนเสิร์ทอย่างคึกคักมาก
สรุปแล้วเกาหลีใต้เป็นสถานที่น่าสนใจไปท่องเที่ยวแต่ถ้าให้อยู่ต้องมีรายได้สูงเพราะค่าใช้จ่ายสูงครับ และต้องชื่นชอบอากาศหนาวเพราะมีฤดูหนาว 8-9 เดือนต่อปี
สุขวิทย์ โสภาพล